🏃‍♂️ การวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้นักวิ่งเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน

CityTrailRunners Gang's avatarส่งโดย

EP190 : ทำไมนักวิ่งถึงวิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม?

เผยแพร่วันที่: 15 พฤษภาคม 2567 | โดย CitytrailRunners Podcast

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการวิ่งทั้งระยะสั้น กลาง และอัลตร้า ต่างพากันตั้งคำถามว่า “ทำไมนักวิ่งถึงวิ่งได้เร็วขึ้นขนาดนี้?” ไม่ใช่แค่นักวิ่งระดับโลกที่ทำลายสถิติกันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังรวมถึงนักวิ่งทั่วไปที่พัฒนาตัวเองได้เร็วกว่าที่เคยเป็นมา บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึง ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลต่อแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของ “รองเท้า” เท่านั้น



✅ TLDR: เร็วขึ้น เพราะเข้าใจมากขึ้น

การที่นักวิ่งในยุคนี้ “วิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจาก

📌 เทคโนโลยีที่ดีขึ้น

📌 โภชนาการที่มีการวางแผน

📌 แนวคิดทางจิตวิทยาที่เปิดกว้าง

📌 การเข้าถึงแหล่งความรู้ และ

📌 การเติบโตของวงการอย่างต่อเนื่อง

แม้คุณจะไม่ใช่นักวิ่งมืออาชีพ แต่การเรียนรู้จากปัจจัยเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน!


การวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้นักวิ่งเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน

วันที่: 15 พฤษภาคม 2567 หัวข้อ: การสำรวจแนวโน้มล่าสุดในการวิ่งระยะสั้น ระยะกลาง และอัลตร้า รวมถึงปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของความเร็ว

สรุป:

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการวิ่งทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และอัลตร้าได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของเวลาที่เร็วขึ้นและสถิติที่ทำลายลง เอกสารข้อมูลนี้ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากสามแหล่งเพื่อสำรวจว่าการเพิ่มขึ้นของความเร็วนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และปัจจัยใดบ้างที่อาจเป็นสาเหตุ จากข้อมูลที่มีอยู่ ชี้ให้เห็นว่ามีการปรับปรุงประสิทธิภาพจริงในวงกว้าง ไม่ใช่แค่จากนักกีฬาระดับสุดยอดเพียงไม่กี่คน และปัจจัยหลายประการน่าจะมีส่วนร่วม แม้ว่า “ซูเปอร์ชูส์” จะถูกพิจารณาว่าเป็นสาเหตุหลักที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่ปัจจัยอื่นๆ เช่น โภชนาการที่ดีขึ้น การฝึกที่ได้เปรียบทางจิตวิทยา และความรู้เกี่ยวกับการฝึกที่แพร่หลายมากขึ้น ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน

ประเด็นหลักและข้อเท็จจริงที่สำคัญ:

  1. การเพิ่มขึ้นของความเร็วเป็นเรื่องจริงและแพร่หลาย:
  • แหล่งข้อมูลทั้งสามเห็นพ้องต้องกันว่ามีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่านักวิ่งกำลังเร็วขึ้นในหลากหลายระยะทาง
  • บทความ “Why Are Runners Suddenly So Fast?” ชี้ให้เห็นถึงการทำลายสถิติโลกหลายรายการในช่วงเวลาสั้นๆ รวมถึงสถิติสองไมล์ของ Jakob Ingebrigtsen, สถิติ 5,000 เมตรและ 1,500 เมตรของ Faith Kipyegon และสถิติ Steeplechase ของ Lamecha Girma
  • มีการสังเกตเห็นความเร็วที่เพิ่มขึ้นในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ในกลุ่มนักวิ่งอันดับต้นๆ เท่านั้น: “การวิเคราะห์โดยโค้ช Peter Thompson ในรัฐโอเรกอน แสดงให้เห็นว่าจำนวนนักวิ่งระยะกลางและระยะไกลที่ทำเวลาตามเกณฑ์ชั้นนำได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สามเท่า หรือบางรายการถึงสี่เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา” และ “เมื่อต้นเดือนมิถุนายน นักเรียนชายสี่คนทำเวลาต่ำกว่าสี่นาทีสำหรับระยะหนึ่งไมล์ในการแข่งขันครั้งเดียว ซึ่งเท่ากับจำนวนรวมของผู้ที่ทำได้ในประวัติศาสตร์ก่อนปี 2011” (จาก “Why Are Runners Suddenly So Fast?”)
  • ในอัลตร้า มาราธอน ก็มีแนวโน้มเดียวกัน: “ในปีนี้ Leadville Trail 100 ได้เห็นโพเดียมชายที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการ รวมถึงสถิติสนามชายใหม่ และผู้หญิงที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกทำเวลาหญิงที่เร็วเป็นอันดับสอง” และ “Western States ปี 2024 มี 11 ใน 28 เวลาชายที่เร็วที่สุด และ 6 ใน 9 เวลาหญิงที่เร็วที่สุดตลอดกาล” (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  1. ซูเปอร์ชูส์ (Super Shoes) เป็นปัจจัยสำคัญและมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ:
  • ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่และแหล่งข้อมูลทั้งสามระบุว่ารองเท้าวิ่งเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีพื้นโฟมเด้งและแผ่นคาร์บอน (“ซูเปอร์ชูส์” หรือ “ซูเปอร์สไปค์”) มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพ
  • “เหตุผลที่ผู้ต้องสงสัยหลักของฉันคือรองเท้าคือเรามีหลักฐานโดยตรงจากห้องปฏิบัติการว่ารองเท้าทั้งสองประเภทปรับปรุงเศรษฐกิจการวิ่งได้ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ในสนามแข่งและอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์บนถนน” (จาก “Why Are Runners Suddenly So Fast?”)
  • ในการสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การออกกำลังกาย รองเท้าวิ่งวันแข่งขัน (Race day super shoes) ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญหลายคน โดยมีค่าเฉลี่ยการให้คะแนนเป็นเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในตาราง (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • นอกจากประโยชน์ด้านเศรษฐกิจการวิ่งในระหว่างการแข่งขันแล้ว ยังมีความเชื่อว่าการฝึกซ้อมด้วยซูเปอร์ชูส์อาจช่วยให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมได้นานขึ้น หนักขึ้น และฟื้นตัวได้ดีขึ้น (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  1. โภชนาการ โดยเฉพาะการรับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูงระหว่างการแข่งขันและระหว่างการฝึก มีบทบาทสำคัญ:
  • มีการปรับปรุงกลยุทธ์การบริโภคคาร์โบไฮเดรต โดยได้รับอิทธิพลจากกีฬาจักรยาน
  • “นักปั่นรายงานว่ากินคาร์โบไฮเดรตได้มากกว่า 120 กรัม (480 แคลอรี่) ต่อชั่วโมง ในขณะที่เมื่อก่อนครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นก็ถือว่าเป็นขีดจำกัดสูงสุด” (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • นักวิ่งอัลตร้าอีลีทหลายคนกำลังนำแนวทางนี้มาใช้ โดยบริโภคคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 120 กรัมต่อชั่วโมงระหว่างการแข่งขันยาวนาน (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • การบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอระหว่างการฝึก โดยเฉพาะในการวิ่งระยะไกล ก็ถูกเน้นย้ำว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยให้คุณภาพของการฝึกดีขึ้นและฟื้นตัวเร็วขึ้น (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • ในการสำรวจผู้เชี่ยวชาญ โภชนาการคาร์โบไฮเดรตสูงระหว่างการแข่งขัน (High carb intake during endurance performance) ได้รับคะแนนสูง โดยเฉพาะสำหรับระยะทางที่ยาวขึ้น (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  1. ปัจจัยด้านจิตวิทยา: ปรากฏการณ์ “Roger Bannister Effect” มีอิทธิพล:
  • การทำลายสถิติหรืออุปสรรคที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้นักวิ่งคนอื่นๆ เชื่อว่าตนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน
  • “หลังจาก Roger Bannister ทำลายสถิติ 4-minute mile ในปี 1954 เขาสร้างความเชื่อว่ามันเป็นไปได้ และเดือนถัดมา John Landy ก็วิ่งได้เร็วกว่าเดิม” (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในการสำรวจให้คะแนนปัจจัย “The post-Roger Bannister psychological effect” ว่ามีส่วนต่อการเพิ่มขึ้นของความเร็ว (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • “เมื่อมีใครบางคนหรือนักวิ่งกลุ่มเล็กๆ เริ่มวิ่งเร็ว คนอื่นๆ ก็จะเริ่มคิดว่า ‘ทำไมไม่ใช่ฉัน?'” (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  1. ความรู้เกี่ยวกับการฝึกซ้อมที่แพร่หลายมากขึ้น:
  • อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทำให้ข้อมูลการฝึกซ้อม รวมถึงวิธีการของนักกีฬามืออาชีพ เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีตมาก
  • “ผลกระทบของอินเทอร์เน็ต/โซเชียลมีเดียต่อความรู้ด้านการฝึกซ้อม” ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญ โดย Trent Stellingwerff ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ โดยระบุว่า “ตอนนี้ ด้วย Strava และแพลตฟอร์มอื่นๆ มันง่ายมากที่จะเห็นสิ่งที่มืออาชีพกำลังทำ” (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • ความรู้ที่แพร่หลายนี้อาจช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นตัดสินใจเกี่ยวกับการฝึกซ้อมได้ “มีความน่าจะเป็นสูง” และ “หลีกเลี่ยงความผิดพลาดโง่ๆ” (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  1. ความเป็นมืออาชีพที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักวิ่งอีลีท:
  • นักวิ่งอีลีทจำนวนมากขึ้นกำลังมุ่งมั่นกับกีฬาวิ่งอัลตร้าอย่างเต็มที่ โดยละทิ้งงานประจำเพื่ออาศัยอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกซ้อม
  • พวกเขาได้รับการโค้ช มีทรัพยากรมากขึ้น และใช้เวลากับสนามแข่งขันล่วงหน้า (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • ทีมสนับสนุน (Crew) มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ช่วยจัดการรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในวันแข่งขัน (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  1. จำนวนนักวิ่งที่มากขึ้น (Larger Pool of Runners):
  • การเติบโตของกีฬาวิ่งโดยรวม หมายถึงมีจำนวนนักวิ่งและผู้มีความสามารถที่มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสในการค้นพบนักกีฬาระดับสุดยอด
  • นักวิ่งระดับอุดมศึกษาจากลู่จำนวนมากขึ้นกำลังเปลี่ยนมาสู่วิ่งเทรลอัลตร้าโดยตรง นำความเร็วและประสบการณ์การฝึกซ้อมมาสู่กีฬา (จาก “Why Elite Runners Are Getting Faster – Ultra Running Magazine.pdf”)
  • Bengt Kayser ผู้แสดงความเห็นในบทความหนึ่ง ได้เน้นย้ำถึง “การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้มีความสามารถ” ว่าเป็นปัจจัยสำคัญ โดยระบุว่า “ยิ่งประชากรมากเท่าไร โอกาสที่จะมีผู้ที่โดดเด่นก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น” (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  1. ปัจจัยอื่นๆ และความน่าจะเป็นของการใช้สารกระตุ้น:
  • มีการกล่าวถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีส่วนร่วม เช่น การรักษาความเร็วที่ดีขึ้น (และ Drafting) โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี Wavelight ในสนามแข่ง (จาก “Why Are Runners Suddenly So Fast?”)
  • การฝึกซ้อมที่ได้เปรียบ เช่น การฝึกที่ระดับความสูง (Altitude training) และการฝึกซ้อมในสภาพอากาศร้อน (Heat training) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • คุณภาพของพื้นสนามแข่งที่ดีขึ้นและการสนับสนุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักกีฬา ก็ถูกกล่าวถึงว่าเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพ (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • ประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความกังวลเกี่ยวกับการใช้สารกระตุ้น (Doping) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่าเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการตรวจสารกระตุ้นในกีฬาวิ่งอัลตร้าที่ยังมีจำกัด และจำนวนนักกีฬาที่ถูกตรวจพบในกีฬาอื่นๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
  • “เราไม่สามารถประมาทผลของการใช้สารกระตุ้นได้ เมื่อพิจารณาจากจำนวนนักกีฬาที่ถูกตรวจพบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” (Philip Skiba, จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)
  • Carl Foster ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเสนอความเป็นไปได้ของการ “โดปปิ้งด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์” เป็นคำอธิบาย 15% สำหรับเวลาที่เร็ว (จาก “Why Runners Are Racing Faster Than Ever”)

ข้อสรุปเชิงสังเคราะห์:

โดยรวมแล้ว หลักฐานจากแหล่งข้อมูลทั้งสามชี้ให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของความเร็วในการวิ่งเป็นแนวโน้มจริงและแพร่หลาย ปัจจัยหลายประการมีส่วนร่วม โดยมีน้ำหนักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะทางและนักกีฬาแต่ละคน ซูเปอร์ชูส์ ดูเหมือนจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญที่สุด โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดสนับสนุน ในขณะที่โภชนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการรับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูงระหว่างการแข่งขันและระหว่างการฝึก มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับระยะทางที่ยาวขึ้น ปัจจัยด้านจิตวิทยา เช่น ความเชื่อที่เพิ่มขึ้นหลังจากเห็นสถิติใหม่ๆ ถูกทำลาย และความรู้ด้านการฝึกซ้อมที่แพร่หลายมากขึ้นผ่านทางออนไลน์ ก็มีบทบาทในการเพิ่มระดับประสิทธิภาพโดยรวมเช่นกัน ความเป็นมืออาชีพที่เพิ่มขึ้นและจำนวนนักวิ่งที่มีศักยภาพมากขึ้นในกีฬาเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่ช่วยขับเคลื่อนการปรับปรุงนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการใช้สารกระตุ้น แต่แหล่งข้อมูลเหล่านี้เน้นย้ำว่าปัจจัยที่กล่าวถึงข้างต้นซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถอธิบายการปรับปรุงที่เห็นได้ส่วนใหญ่แล้ว

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงช่วยอธิบายแนวโน้มล่าสุดในระดับอีลีทเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งทุกระดับที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของตนเองอีกด้วย


source:
https://marathonhandbook.com/why-runners-are-racing-faster-than-ever/
https://ultrarunning.com/featured/why-elite-runners-are-getting-faster/
https://www.outsideonline.com/health/training-performance/why-are-runners-suddenly-so-fast/

ใส่ความเห็น