รีวิว รพ.สมเด็จยุพราชจอมบึง ฮาฟมาราธอน 2025

รีวิวงานวิ่ง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง ฮาฟมาราธอน 2025

CityTrailRunners Gang's avatarส่งโดย

CitytrailTalk Podcast EP220 สรุปฉบับบล็อก

งานวิ่งเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจของชุมชน งานบรรยากาศดี เส้นทางสวย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่หาไม่ได้บ่อยในงานวิ่งไทย — นี่คือประสบการณ์จากงาน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง ฮาฟมาราธอน ครั้งที่ 7 ที่เราได้มีโอกาสไปวิ่งและเก็บรายละเอียดมาเล่าให้ฟังกันผ่าน EP220 ของ CitytrailTalk Podcast

สำหรับใครที่กำลังมองหางานวิ่งแนว “อุ่นใจ”, คนไม่แน่นเกินไป, วิ่งสนุก วิ่งเพลิน ได้บรรยากาศต่างจังหวัดแท้ๆ พร้อมสนับสนุนโรงพยาบาลในพื้นที่ งานนี้คือหนึ่งใน “Rare Gem” ของวงการวิ่งไทยที่ไม่ควรพลาด


1. ความหมายของชื่อ และเรื่องเล่าของโรงพยาบาลยุพราช

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมโรงพยาบาลหลายแห่งในไทยถึงใช้ชื่อว่า “สมเด็จพระยุพราช”

คำว่า “ยุพราช” หมายถึง รัชทายาทที่จะขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ในอนาคต ซึ่งในช่วงเวลานั้นหมายถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในปัจจุบัน)

โครงการโรงพยาบาลยุพราชถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พื้นที่ห่างไกลได้มีโรงพยาบาลมาตรฐานดี เดิมเริ่มต้นที่ 19 แห่ง และขยายมาเป็นกว่า 21 แห่งทั่วประเทศ จุดปล่อยตัวของงานนี้ตั้งอยู่ข้างโรงพยาบาลจอมบึง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชนบท

ความรู้สึกแรกตั้งแต่ไปถึงคือ อบอุ่นและเป็นงานที่ทำด้วยใจจริงๆ


2. บรรยากาศงาน: เล็ก แต่กลมกล่อม และเป็นกันเองมาก

งานปีนี้มีนักวิ่งประมาณ 800–900 คน ครอบคลุม 3 ระยะ — 3.8 km, 10 km และ 21 km

จำนวนกำลังดี ไม่แน่น ไม่เบียด และดูแลง่าย

สิ่งที่โดดเด่นของงาน:

  • ทีมงานและอาสาสมัครในพื้นที่ร่วมมือกันเต็มที่
  • ที่จอดรถสะดวกมาก (เป็นลานมันอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล)
  • บรรยากาศแบบ “ชุมชนช่วยกันจัดจริงๆ”
  • จุดให้น้ำดี เกลือแร่ครบ น้ำเพียงพอ
  • อาหารหลังเส้นชัยหลากหลาย
  • มีเลี้ยงข้าวเย็นสำหรับคนมารับบรีฟก่อนวันงาน
  • มีลานสำหรับกางเต็นท์ให้นักวิ่งที่ต้องการพักค้างคืน

และที่สำคัญที่สุด…

งานนี้มีถ้วยพระราชทาน

ผู้ชนะ Overall ชายรับถ้วยพระราชทานในหลวงรัชกาลที่ 10 ส่วนฝ่ายหญิงรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระราชินี เรียกว่าเป็นโอกาสที่หายากในงานวิ่งเมืองรอง


3. การเดินทาง: ใช้ M81 คือที่สุด

ปีนี้เราเลือกเดินทางเช้าตรู่จากกรุงเทพฯ และใช้เส้น M81 ซึ่งเร็วมาก

  • ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ถึงจอมบึง
  • ถนนดี 4 เลนตลอด
  • ทางโล่ง สะดวก ปลอดภัย

ถ้าใครคิดจะลงงานนี้ในปีหน้า สามารถเลือกได้สองแบบ

  1. ขับรถตอนเช้าแบบเรา ไปถึงตีสามกว่า พร้อมอุ่นเครื่อง
  2. ไปพักในตัวเมืองราชบุรีที่ตอนนี้มีที่พักสวยๆ เก๋ๆ เพิ่มขึ้นเยอะมาก

4. เส้นทางฮาล์ฟมาราธอน: ไร่อ้อย ควันหวาน และวิวเขาหินปูน

หนึ่งในไฮไลต์ใหญ่ของงานนี้คือ เส้นทางที่พาเราเข้าไปกลางไร่อ้อยจริงๆ

ลักษณะเส้นทาง

  • ช่วงแรกเป็นถนนหลัก ออกตัวกว้าง ไม่แออัด
  • จากนั้นค่อยๆ ตัดเข้าถนนในหมู่บ้าน
  • แล้วทะลุสู่ทางไร่อ้อยที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของงาน
  • เนินไม่หนัก ถนนเป็นลาดยางเป็นส่วนใหญ่
  • บางช่วงมืดเล็กน้อยตอนตี 5 แต่มีไฟตั้งเป็นระยะ
  • ระหว่างวิ่งเริ่มมีแสงส้มจากพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมทิวทัศน์ภูเขาหินปูน—สวยมาก

ไฮไลต์ที่สุดของงาน

“น้ำอ้อยคั้นสด” จากชาวไร่ — เสิร์ฟแทนเกลือแร่บางจุด

หวานหอมแบบธรรมชาติ กินแล้วฟื้นพลังทันที คุณโจถึงกับไม่ต้องกินเจลเลยในวันนี้


5. ประสบการณ์และภาพรวมความประทับใจ

จากบันทึกของ Host คุณโจ:

สิ่งที่ “ดีมาก”

  • งานเป็นกันเองสุดๆ
  • เส้นทางสวยและมีไฮไลต์เฉพาะตัว
  • จุดให้น้ำพอเพียงและมีน้ำอ้อยสด
  • ช่างภาพเยอะมาก ได้รูปคุณภาพดีๆ หลายใบ
  • ของที่ระลึกผู้สมัคร VIP คุ้มค่า (เสื้อ 2 ตัว + ร่ม ฯลฯ)
  • มี OTOP ผ้าขาวม้ามอบให้ Top 50 (ผืนละเกือบ 200 บาท คุณภาพดีมาก)
  • ปริมาณนักวิ่งกำลังดี ไม่เบียด
  • ได้ช่วยสมทบทุนโรงพยาบาล

สิ่งที่นักวิ่งควรรู้

  • บางช่วงมืดเล็กน้อย ควรระวังพื้น
  • เป็นงานเล็ก อาจไม่อลังการเท่างานใหญ่ประจำปี
  • ความเร็วรถสนับสนุนจะน้อยกว่า marathon เมืองใหญ่

โดยรวมแล้ว งานนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ งานวิ่งใจดี วิ่งสบาย ได้บุญ ได้บรรยากาศท้องถิ่นแท้ๆ


6. ผลการแข่งขัน – แรงกว่าที่คิด!

  • Half Marathon ชายที่ 1 ทำเวลา 1:21 ชั่วโมง
  • 10K ชายที่ 1 ทำเวลา 35 นาที ถือว่าเร็วมากสำหรับงานระดับชุมชน คุณโจจบอันดับ 28 ของชาย และ 31 Overall ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะเมื่อร่างกายยังมีอาการ Office Syndrome เล่นงานช่วงนี้

7. เหมาะกับใคร และทำไมควรไปในปีหน้า

เหมาะกับ:

  • นักวิ่งที่อยากวิ่งบรรยากาศต่างจังหวัดแบบอบอุ่น
  • คนที่อยากสนับสนุนโรงพยาบาลท้องถิ่น
  • นักวิ่งสายกิน (น้ำอ้อยสดคือของจริง!)
  • นักวิ่งที่ชอบเส้นทางธรรมชาติแต่ไม่ใช่เทรล
  • นักวิ่งที่อยากลองลุ้นถ้วยพระราชทาน

ทำไมควรมา

เพราะมันเป็นงานที่จัดด้วยใจล้วนๆ และสะท้อนความเป็น “วิ่งเพื่อชุมชน” ได้ดีที่สุดงานหนึ่งในประเทศ นักวิ่งหน้าใหม่ก็วิ่งง่าย นักวิ่งประสบการณ์สูงก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกและคุ้มค่า


8. ฝากถึงนักวิ่งที่สนใจปีหน้า

  • ลงทะเบียนเร็วที่สุดถ้าอยากได้บรีฟ + ดินเนอร์ก่อนงาน
  • เลือกพักในเมืองราชบุรีถ้าไม่อยากตื่นเช้าเกินไป
  • เตรียมกล้องด้วย เพราะวิวไร่อ้อยและท้องฟ้ายามเช้าสวยมาก
  • ถ้าอยากลุ้นอันดับ ต้องเตรียมตัวดี เพราะ Top ชาย-หญิงแรงจริง

สรุปส่งท้าย

งานวิ่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง เป็นหนึ่งในงานที่ตอบโจทย์ทั้ง “หัวใจของชุมชน” และ “ความสุขของนักวิ่ง” ได้อย่างลงตัวที่สุดงานหนึ่งในปีนี้

ถ้าคุณกำลังมองหา:

✔ วิ่งสนุก

✔ วิ่งสบาย

✔ ได้บุญ

✔ ได้วิว

✔ คนไม่เยอะ

✔ ของที่ระลึกดี

✔ และได้ช่วยโรงพยาบาล

งานนี้คือ must-run ของปลายปีอย่างแท้จริง

ใส่ความเห็น