EP194: ออกกำลังกายยังไงให้ไม่แก่ – วิทยาศาสตร์ใหม่ที่หักล้างความเชื่อเดิมเกี่ยวกับผู้สูงอายุ

CityTrailRunners Gang's avatarส่งโดย

“อายุไม่ใช่ข้อจำกัด แต่ ‘ไม่ขยับเลย’ ต่างหากที่ทำให้แก่เร็ว!”

ในตอนที่ 194 ของ CitytrailTalk

เราจะพาคุณมาดู “ข้อเท็จจริง” และ “ความเข้าใจผิด” ที่อยู่คู่กับการออกกำลังกายของผู้สูงอายุมานาน พร้อมหักล้าง 7 ตำนานยอดฮิตด้วยงานวิจัยจาก Harvard, WebMD และ The Globe and Mail

📝 TL;DR – EP194

🧓 ออกกำลังกาย = ต้านชรา ไม่ใช่เสี่ยง!

  • 🦴 อายุมาก = ไม่ได้แปลว่าต้องหยุดขยับ
  • 🧠 งานวิจัยยืนยันว่า “แก่เพราะไม่ขยับ” มากกว่า “แก่เพราะอายุ”
  • 💪 เริ่มฝึกเมื่อไหร่ก็ได้ แม้จะ 70+ ก็ยังเห็นผล
  • ❌ หักล้าง 7 ตำนาน: ปวดข้อ, กลัวล้ม, สายไปแล้ว ฯลฯ
  • 🏃‍♀️ ยิ่งฝึก ยิ่งเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดโรค ป้องกันสมองเสื่อม
  • 🔄 ฝึกแบบถูกวิธี = แข็งแรง ฟิต และมีอิสระไปจนปลายชีวิต

🎧 ฟังเต็มได้ที่ CitytrailTalk EP194 – สุขภาพดีทุกวัย เริ่มได้ตอนนี้เลย!

#ผู้สูงอายุ #ออกกำลังกาย #สุขภาพดีทุกวัย #CitytrailTalk

แหล่งข้อมูลทั้งสามฉบับเน้นย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ และร่วมกันหักล้างความเชื่อผิดๆ ที่ว่าผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือว่าการออกกำลังกายนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาอีกต่อไป บทความนำเสนอทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ผลการวิจัยระยะยาว และตัวอย่างจากผู้สูงอายุที่ประสบความสำเร็จในการรักษาสมรรถภาพทางกายในระดับสูง

แนวคิดและข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุด:

1. การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามอายุและการตอบสนองต่อการออกกำลังกาย (Harvard Health):

  • อายุที่เพิ่มขึ้นนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดลดลง ความสามารถในการสูบฉีดเลือดของหัวใจลดลง ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง มวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูกลดลง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบประสาทและการเผาผลาญ
  • อย่างไรก็ตาม แหล่งข้อมูลจาก Harvard Health เน้นย้ำว่า “Research shows that many of the changes attributed to aging are actually caused in large part by disuse.” (งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เชื่อว่าเป็นผลมาจากอายุนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ได้ใช้งาน)
  • ตารางเปรียบเทียบผลกระทบของอายุและการออกกำลังกาย (Harvard Health) ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการออกกำลังกายสามารถ:ลดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก (Increase –> Decrease)
  • ชะลอการลดลงของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด (Decrease –> Slows the decrease)
  • เพิ่มความสามารถในการสูบฉีดเลือดสูงสุด (Decrease –> Increase)
  • ลดความแข็งตึงของกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด (Increase –> Decrease)
  • ลดความดันโลหิต (Increase –> Decrease)
  • ลดความหนืดของเลือด (Increase –> Decrease)
  • เพิ่มแคลเซียมและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก (Decrease –> Increase)
  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง (Decrease –> Increase)
  • เพิ่มอัตราการเผาผลาญ (Decrease –> Increase)
  • ลดไขมันในร่างกาย (Increase –> Decrease)
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด (Increase –> Decrease)
  • ปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอล (LDL ลดลง, HDL เพิ่มขึ้น)
  • ปรับปรุงการทำงานของระบบประสาทและปฏิกิริยาตอบสนอง (Slower –> Decrease)
  • เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ (Decrease –> Increase)
  • ลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า (Increase –> Decrease)
  • ลดอาการหลงลืมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (Increase –> Decrease)

2. การหักล้างตำนานเรื่องการชะลอการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ (The Globe and Mail, WebMD, และ สรุปภาษาไทย):

  • ตำนาน: การเสื่อมถอยในวัยชราเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (WebMD): หักล้างด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงรักษาสมรรถภาพทางกายในระดับสูงได้ และอาการที่เชื่อมโยงกับความชราจำนวนมากแท้จริงแล้วเป็น “symptoms of inactivity, not age,” (อาการของการไม่เคลื่อนไหว ไม่ใช่อายุ) (WebMD)
  • ตำนาน: การออกกำลังกายไม่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ กลัวล้ม (WebMD): หักล้างด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าการออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง สมดุล และความคล่องแคล่ว ซึ่ง “reduce your chances of a fall,” (ลดโอกาสในการหกล้ม) (WebMD) การออกกำลังกายยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วย
  • ตำนาน: ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน สายไปแล้วที่จะสร้างความแตกต่าง (WebMD): หักล้างอย่างชัดเจนด้วยคำกล่าวว่า “It really is never too late to start exercising and reaping the benefits,” (ไม่เคยสายเกินไปที่จะเริ่มออกกำลังกายและเก็บเกี่ยวประโยชน์) (WebMD) งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าแม้ผู้สูงอายุมากถึง 90 ปีหรือผู้ที่เริ่มออกกำลังกายหลังอายุ 45 ปีก็ยังสามารถได้รับประโยชน์มหาศาล เช่น การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและลดอัตราการเสียชีวิต
  • ตำนาน: การออกกำลังกายจะทำร้ายข้อต่อ (WebMD): หักล้างด้วยข้อเท็จจริงที่ตรงกันข้ามว่าการออกกำลังกายช่วยลดอาการปวดข้อในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบได้
  • ตำนาน: ผู้สูงอายุจำเป็นต้องชะลอการฝึกซ้อม (The Globe and Mail, สรุปภาษาไทย): บทความ The Globe and Mail โดย Alex Cyr ได้รับการสรุปในแหล่งที่มาที่ 4 อย่างละเอียด ชี้ให้เห็นว่า:
  • นักกีฬาผู้สูงอายุระดับโลกจำนวนมากทำลายขีดจำกัดอายุและยังคงแข่งขันในระดับสูง (เช่น Jeannie Rice วัย 76 ปี, Ed Whitlock วัย 85 ปี) แสดงให้เห็นว่า “Performances such as Rice’s force us to rethink the limitations we’ve placed on ourselves and others of a certain age.” (ผลงานของ Rice ทำให้เราต้องทบทวนข้อจำกัดที่เรากำหนดไว้สำหรับตัวเองและผู้อื่นที่มีอายุบางช่วง)
  • งานวิจัยในอดีตที่แนะนำให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายเบาๆ นั้น “were not rigorous enough to generate physiological benefits” (ไม่เข้มงวดพอที่จะสร้างประโยชน์ทางสรีรวิทยา) (The Globe and Mail, Scott Trappe)
  • วิทยาศาสตร์ล่าสุดยืนยันว่า “the body’s response to cardiovascular exercise does not change much with age” (การตอบสนองของร่างกายต่อการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักตามอายุ) และ “If you keep training, the body continues to respond to exercise in a positive manner deep into life,” (ถ้าคุณยังคงฝึกซ้อม ร่างกายจะยังคงตอบสนองต่อการออกกำลังกายในเชิงบวกต่อไปจนถึงช่วงปลายชีวิต) (The Globe and Mail, Scott Trappe)
  • “ความระมัดระวังที่มากเกินไปในงานวิจัยได้ยับยั้งผู้สูงอายุหลายรุ่นไม่ให้ออกกำลังกายเหมือนนักกีฬา” (สรุปภาษาไทย อ้างถึง Scott Trappe)
  • ตำนาน: ไม่สามารถออกกำลังกายได้เนื่องจากข้อจำกัดทางกายภาพหรือสุขภาพ (WebMD): บทความ WebMD ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ว่าสามารถปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายได้ แม้จะอ่อนแอมาก เพิ่งฟื้นตัว หรือนั่งรถเข็น “Even people who are bedridden can find ways to exercise,” (แม้แต่ผู้ที่นอนติดเตียงก็ยังสามารถหาวิธีออกกำลังกายได้) (WebMD)
  • ตำนาน: ออกกำลังกายเป็นเรื่องน่าเบื่อ (WebMD): ข้อนี้ถูกหักล้างด้วยคำแนะนำให้หากิจกรรมทางกายภาพที่หลากหลายและสนุกสนาน ไม่จำเป็นต้องรู้สึกเหมือนเป็นการออกกำลังกายเสมอไป “The best exercise is the one that you actually do.” (การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือสิ่งที่คุณทำจริงๆ) (WebMD)

3. ประโยชน์ที่มากกว่าแค่สุขภาพกาย (Harvard Health, WebMD):

  • การออกกำลังกายช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทและจิตใจที่เกี่ยวข้องกับอายุ “Endurance exercise boosts mood and improves sleep, countering anxiety and depression.” (การออกกำลังกายแบบความทนทานช่วยเสริมสร้างอารมณ์และปรับปรุงการนอนหลับ ต่อต้านความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า) (Harvard Health)
  • ปรับปรุงเวลาตอบสนองและช่วยป้องกันการสูญเสียความจำตามอายุ (Harvard Health)
  • “Exercise improves more than your physical health. It can also boost memory and help prevent dementia.” (การออกกำลังกายช่วยปรับปรุงมากกว่าแค่สุขภาพกาย สามารถเสริมสร้างความจำและช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย) (WebMD)
  • ช่วยให้รักษาความเป็นอิสระและวิถีชีวิตเดิมๆ ไว้ได้นานขึ้น (WebMD)
  • การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง (โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่) ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคกระดูกพรุน และแม้แต่โรคอัลไซเมอร์ (Harvard Health)
  • “vigorous exercise may be the most powerful medicine out there.” (การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงอาจเป็นยาที่ทรงพลังที่สุดที่มีอยู่) (The Globe and Mail, WebMD, สรุปภาษาไทย อ้างถึง Scott Trappe)

4. คำแนะนำและข้อควรระวังในการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ (Harvard Health, WebMD):

  • เริ่มช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มระดับความหนักหน่วง (Harvard Health, WebMD)
  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี มีปัญหาสุขภาพ หรือไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน (Harvard Health, WebMD)
  • ดูแลเรื่องการกินและดื่มน้ำให้เพียงพอ (Harvard Health)
  • วอร์มอัพก่อนและคูลดาวน์หลังออกกำลังกาย (Harvard Health)
  • ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะรองเท้า (Harvard Health)
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สลับวันหนักกับวันเบา และให้เวลาฟื้นตัว (Harvard Health)
  • ลองกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ไม่เบื่อและใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน (Harvard Health, WebMD)
  • สร้างโปรแกรมที่สมดุลโดยรวมการออกกำลังกายแบบความทนทาน การฝึกความแข็งแรง การยืดเหยียด และการฝึกการทรงตัว (Harvard Health)
  • ออกกำลังกายอย่างปลอดภัย ปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ (Harvard Health)
  • ฟังร่างกาย เรียนรู้สัญญาณเตือน และไม่เพิกเฉยต่ออาการปวด (Harvard Health)
  • การออกกำลังกายได้ผลดีที่สุดเมื่อทำร่วมกับมาตรการป้องกันอื่นๆ เช่น หลีกเลี่ยงยาสูบ รับประทานอาหารที่เหมาะสม รักษาน้ำหนักตัว พิจารณาการเสริมวิตามิน (ในบางกรณี) ดื่มแอลกอฮอล์อย่างรับผิดชอบ รักษาจิตใจให้กระฉับกระเฉง และสร้างเครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่ง (Harvard Health)

5. ไม่เคยสายเกินไปและผลลัพธ์ระยะยาว (Harvard Health, The Globe and Mail, WebMD):

  • การศึกษาจาก Harvard Alumni Study และอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถเพิ่มอายุขัยได้ (Harvard Health)
  • “Regular physical activity appears to reduce the overall mortality rate by more than a quarter and to increase the life expectancy by more than two years compared with the sedentary population’s average.” (การเคลื่อนไหวทางกายสม่ำเสมอ ดูเหมือนจะลดอัตราการเสียชีวิตโดยรวมลงมากกว่าหนึ่งในสี่ และเพิ่มอายุขัยมากกว่าสองปี เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประชากรที่นั่งนิ่ง) (Harvard Health อ้างถึง Dr. J. Michael McGinnis)
  • การศึกษา Dallas Bed Rest and Training Study (Harvard Health) แสดงให้เห็นว่าภาวะร่างกายที่ถดถอยลงอย่างรวดเร็วจากการนอนพักเป็นเวลานานในวัย 20 ปี สามารถย้อนกลับได้ด้วยการออกกำลังกาย และเมื่อติดตามผลในอีก 30 ปีต่อมา (วัย 50 ปี) แม้ร่างกายจะเสื่อมถอยลงจากการไม่ได้ออกกำลังกาย แต่การเริ่มออกกำลังกายอีกครั้งก็สามารถย้อนกลับการเสื่อมถอยทางแอโรบิกที่เกี่ยวข้องกับอายุได้ 100%
  • “It’s easier to maintain fitness than to build it up.” (การรักษาความฟิตนั้นง่ายกว่าการสร้างขึ้นมาใหม่) (The Globe and Mail, สรุปภาษาไทย) เน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

ข้อความที่น่าจดจำ:

  • “Of all the causes which conspire to render the life of a man short and miserable, none have greater influence than the want of proper exercise.” (จากทุกสาเหตุที่ร่วมกันทำให้อายุของมนุษย์สั้นและน่าสังเวช ไม่มีสาเหตุใดที่มีอิทธิพลมากกว่าการขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม) – Dr. William Buchan (Harvard Health)
  • “Exercise thy lasting youth defends.” (การออกกำลังกายป้องกันความเยาว์วัยอันยืนยาวของเจ้า) – John Gay (Harvard Health)
  • “That which is used develops; that which is not wastes away.” (สิ่งที่ถูกใช้จะพัฒนา สิ่งที่ไม่ได้ใช้จะเสื่อมถอย) – Hippocrates (Harvard Health)
  • “Resting is rusting.” (การพักผ่อนคือการขึ้นสนิม) – Helen Hayes (Harvard Health)
  • “There is no magic age, but there is no core reason to tell someone that they can’t keep training like an athlete.” (ไม่มีอายุที่วิเศษ แต่ไม่มีเหตุผลหลักที่จะบอกใครว่าพวกเขาไม่สามารถฝึกซ้อมเหมือนนักกีฬาต่อไปได้) – Scott Trappe (The Globe and Mail, สรุปภาษาไทย)
  • “Being a couch potato is actually more dangerous than being physically active,” (การเป็นคนติดโซฟาจริงๆ แล้วอันตรายกว่าการเคลื่อนไหวทางกาย) – Dutta (WebMD)

สรุปโดยรวม:

แหล่งข้อมูลทั้งสามฉบับให้มุมมองที่สอดคล้องกันว่าการออกกำลังกายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการต่อสู้กับการเสื่อมถอยที่เกี่ยวข้องกับอายุและปรับปรุงคุณภาพชีวิตในวัยชรา การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสุขภาพกายและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต การทำงานของสมอง และความเป็นอิสระในชีวิตประจำวัน ความเชื่อที่ว่าผู้สูงอายุควรชะลอการออกกำลังกายหรือว่ามันสายเกินไปที่จะเริ่มต้นนั้นเป็นเพียงตำนานที่ถูกหักล้างด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และตัวอย่างจริง การเริ่มต้นและรักษากิจกรรมทางกายภาพอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการฝึกความแข็งแรงและความยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ถือเป็น “ยา” ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำให้ร่างกาย “อายุน้อย” ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

แหล่งที่มา:

  1. Excerpts from “Exercise and aging_ Can you walk away from Father Time – Harvard Health.pdf” (Harvard Health Publishing)
  2. Excerpts from “Is it a myth that seniors need to slow down their fitness routines_ – The Globe and Mail.pdf” (The Globe and Mail)
  3. Excerpts from “Myths About Exercise and Older Adults.pdf” (WebMD)
  4. สูงวัย ไม่ต้องชะลอการออกกำลังกาย (สรุปบทความ The Globe and Mail ในภาษาไทย)

ใส่ความเห็น